เมื่อผู้ขายมิใช่เจ้าของที่แท้จริง แม้โจทก์จะรับซื้อไว้โดยสุจริตจากพ่อค้ารถยนต์ โจทก์ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์เพราะผู้รับโอนย่อมไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน เจ้าของกรรมสิทธิ์มีสิทธิติดตามเอาคืนได้ตาม ป.พ.พ.ม.1336 การที่เจ้าของ
ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของรถยนต์คันพิพาทพร้อมตัวถังและอุปกรณ์ตามฟ้องหรือไม่ คดีย่อมมีประเด็นที่ศาลจะวินิจฉัยแต่เพียงว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์พิพาทโดยซื้อมาจากเจ้าของที่แท้จริงหรือไม่การที่โจทก์นำสืบว่าซื้อรถยนต์จากพ่อค้าซื้อขายของชนิดนั้นได้รับความคุ้มครองตาม ป.พ.พ. ม.1332 จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็น[8]
เลขที่ฎีกา 503/2504 เครื่องยนต์สีข้าวไม่ใช้ทรัพย์ส่วนควบของตัวโรงสีจำนองไม่ได้ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 703
ผู้เช่าซื้อเอาเครื่องยนต์โรงสีจำนองไว้ในขณะที่ยังผ่อนส่งชำระราคาค่าเช่าซื้อไม่ครบนั้น เป็นการจำนองที่ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 703[9]
เลขที่ฎีกา 2105/2511 ซื้อที่ดินโดยมิได้ซื้อเรือนที่ปลูกอยู่บนที่ดินด้วยต่อมาผู้ขายจึงขายเรือนให้อีก ดังนี้ เรือนตกเป็นส่วนควบของที่ดินและตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อทันทีที่ได้ทำสัญญาซื้อขาย โดยไม่ต้องจดทะเบียนการซื้อขายเรือนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 อีก[10]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น